Translate

วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

บริการ MA กับ PM แตกต่างกันอย่างไร ?

  


  บริการ Maintenance Agreement คือ บริการดูแลและบำรุงรักษา เครื่องคอมพิวเตอร์ PC และ Laptop อุปกรณ์เครือข่าย (Network Device) เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย (Server) เครื่องลูกข่าย (Client หรือ Workstation) ตลอดจนระบบโปรแกรมใช้งานต่างๆ (Application Software) ให้อยู่ในสถานะพร้อมใช้งานตลอดเวลา

นอกจากนี้การให้บริการ MA ยังรวมไปถึงการให้คำปรึกษาแนะนำกับผู้ใช้งานเกี่ยวกับการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆในระบบเครือข่าย ให้ถูกต้องและปลอดภัยจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆซึ่งอาจก่อปัญหาได้ เช่น Virus Computer เป็นต้น

เหตุผลที่ควรมี  MA

  • พนักงานบริษัทใช้งานโปรแกรมไม่เป็น
  • กรณีที่ซื้อโปรแกรมแกรมมาแล้วแต่ใช้งานไม่ได้
  • ไม่มีความรู้เรื่อง server หรือความรู้เรื่อง Network
  • Upgrade Version ของ Software เพื่อให้โปรแกรมทันสมัยไม่เป็น
  • บริษัทไม่มีทีมพัฒนา Application Software เป็นของตัวเอง


บริการ Preventive Maintenance (PM) คือ การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน โดยการวางแผนเปลี่ยนชิ้นส่วนอะไหล่หรือการซ่อมแซมชิ้นส่วนต่างๆ ของเครื่องจักรหลังการใช้งานอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ เพื่อเป็นการตรวจสอบความเสียหายเบื้องต้นและยืดเวลาการใช้งานของเครื่องจักรให้นานมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีความจำเป็นอย่างย่ิงสำหรับผู้ประกอบการทั้งหลาย เพราะนอกจากจะช่วยลดปัญหาความขัดข้องระหว่างการผลิตได้อย่างแม่นยำแล้ว ยังทำให้สามารถผลิตสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกเช่นกัน

ตามหลักทั่วไป การป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นล่วงหน้านั้นถือว่าดีกว่าอยู่แล้ว การบำรุงรักษาเชิงป้องกันช่วยลดโอกาสที่จะเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดโดยการส่งเสริมประสิทธิภาพของอุปกรณ์ที่ดีที่สุด รายการต่อไปนี้แสดงถึงวิธีการบางประการที่ทีมดูและทรัพย์สินและฝ่ายซ่อมบำรุงสามารถอยู่เหนือการบำรุงรักษาเชิงป้องกันในแผนกของตน

  • กำหนดเวลาและดำเนินการตรวจสอบอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ
  • ทำความเครื่องจักรและทรัพย์สินเป็นประจำ
  • หล่อลื่นชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวเพื่อลดการสึกหรอ
  • ปรับการควบคุมประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีที่สุด
  • ซ่อมแซมและเปลี่ยนชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่ชำรุด
  • ดูแลน้ำมันหล่อลื่นให้สะอาดอยู่เสมอ


วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

ระบบ ISDN PRI E1, PSTN , SIP คือ ?

 ระบบ ISDN PRI E1 , PSTN , SIP คือ ?

สายนอก (Trunk or CO) คือ คู่สายโทรศัพท์ที่มาจากผู้ให้บริการ NT,AIS,3BB เป็นต้น เพื่อใช้ในการเชื่อมต่อกับระบบตู้สาขาโทรศัพท์ ซึ่งรูปแบบของสายนอก สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ชนิด 

        1. PSTN หรือ สายทองแดง ( 1 Chanel : 1 Tel )

        2. E1 หรือ ISDN ( 1 Link = 30 Chanel + 100 Tel )

        3. SIP TRUNK (ไม่มีข้อจำกัดด้านคู่สาย)


PSTN (Public Switched Telephone Network) เดิมที PSTN สร้างขึ้นโดยใช้สัญญาณอะนาล็อกลอยตัวและสวิตช์บอร์ดที่ดำเนินการด้วยตนเอง แต่ถูกแทนที่ด้วยสวิตช์บอร์ดอัตโนมัติ




ISDN (Integrated Services Digital Network) PRI E1 นี้เป็นมาตรฐานของคู่สายโทรศัพท์ที่ใช้กันมาตั้งแต่ในอดีต

โดย Primary Rate Interface (PRI) นี้จะมีให้เลือกใช้งานอยู่ 2 มาตรฐานคือ แบบ T1, แบบ E1


แบบ T1 : จะมีแบนด์วิธ Bandwidth แต่ละช่องสัญญาณเท่ากับ 64-kbit/s และมีช่องสัญญาณ ทั้งหมด 23 ช่องสัญญาณหรือ 23 คู่สายนั่นเอง  มี Bandwidth ทั้งหมด 1.536 Mbit/s /1 วงจร ซึ่งปกติคู่สายแบบ T1 จะนิยมใช้กันในแถบโซนอเมริกา 


แบบ E1 :  จะมีแบนด์วิธ Bandwidth แต่ละช่องสัญญาณเท่ากับ 64-kbit/s และมีช่องสัญญาณทั้งหมด 30 ช่องสัญญาณ หรือ 30 คู่สายนั่นเอง  มี Bandwidth ทั้งหมด 2.048 Mbit/s /1 วงจร ซึ่งปกติคู่สายแบบ E1 จะนิยมใช้กันในแถบโซนยุโรป และในประเทศไทยก็ใช้ E1 นี้เป็นมาตรฐานการใช้งาน



คุณสมบัติเด่น (ISDN PRI E1) 

การคิดอัตราค่าใช้บริการราคาประหยัด สำหรับการโทรในพื้นที่ (02), ต่างจังหวัด, มือถือทุกเครือข่าย, แฟกซ์

เหมาะสำหรับองค์กรขนาดกลางถึงใหญ่ที่ต้องการใช้โทรศัพท์หลายเบอร์แต่ประหยัดคู่สาย (1 DTI = 30 วงจร ได้หมายเลขตรง 100 หมายเลข)

สามารถเรียกเข้าหมายเลขได้โดยตรงโดยไม่ต้องผ่าน Operator

มีหมายเลขตรงทุก Extension

สามารถใช้เลขหมายสวยเป็นเบอร์ operator ได้

หมายเลขเรียงต่อกันและมีเลขสวย ซึ่งง่ายต่อการจดจำและประชาสัมพันธ์

เป็นระบบ Digital ซึ่งไม่มีปัญหาเรื่องสัญญาณรบกวน และใช้เพียง 2 คู่สายภายใน

เมื่อโทรออกสามารถกำหนดให้แสดงเบอร์ตรงที่ปลายเพื่อความสะดวกในการติดต่อกลับในภายหลัง

ในกรณีใช้หัวเครื่อง Digital สามารถแสดงเลขหมายโทรเข้าได้



SIP TRUNK (Session Initiated Protocol Trunk) - การสนทนาด้วยเสียงผ่าน Internet ที่เรียกกันว่า VoIP คือการใช้ระบบเครือข่ายให้ทำงานในรูปแบบของเสียง สามารถพูดโต้ตอบกันได้ กรณีที่เป็น ADSL ทั่วไปจำเป็นต้องมี Server กลางสำหรับกำหนดการเชื่อมต่อ เช่น Skype DNS เป็นต้น  

SIP Trunk เปรียบเสมือนสายนอกในระบบเครือข่าย นำสัญญาณโดยเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ซึ่งสามารถติดต่อกันโดยใช้หมายเลขอ้างอิงจากผู้ให้บริการ ในปัจจุบันแต่ละผู้ให้บริการยังไม่สามารถโทรข้ามกัน ผู้ใช้ SIP Trunk ด้วย SIP Provider เดียวกันสามารถโทรหากันได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย


คุณสมบัติเด่น (SIP Trunk)

คิดอัตราค่าใช้บริการในราคาประหยัด สำหรับการโทรในพื้นที่ (02), ต่างจังหวัด, มือถือทุกเครือข่าย, แฟกซ์

รองรับการกำหนดวงจรภายใน Trunk (Concurrent) และเลขหมายได้ตามความต้องการลูกค้า สามารถใช้งานได้เหมือนกับระบบโทรศัพท์พื้นฐานทั่วไป

ได้รับหมายเลขโทรศัพท์เช่นเดียวกับโทรศัพท์พื้นฐานตามพื้นที่ของการใช้งาน เช่น ลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพจะได้รับหมายเลข 0-2XXX-XXXX หากอยู่ต่างจังหวัดก็จะได้รับหมายเลขโทรศัพท์ตามพื้นที่นั้น

สะดวกต่อการเพิ่มจำนวนคู่สายเพื่อรองรับการใช้งานที่มากขึ้น

สามารถใช้เป็นวงจรสำรอง ในกรณีที่ระบบโทรศัพท์พื้นฐานไม่สามารถใช้งานได้

สามารถใช้ประโยชน์จาก IP Network ขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

รองรับการทำงานร่วมกับวงจรอินเทอร์เน็ตทุกผู้เครือข่าย





*** เกร็ดความรู้  : ระบบโทรศัพท์แบบดั้งเดิม
    ระบบโทรศัพท์ที่พวกเราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ในองค์กร หน่วยงาน จะอาศัยอุปกรณ์ ที่เราเรียกกันว่า ตู้สาขาโทรศัพท์  PABX , PBX ( Private Automatic Branch eXchange , Private Branch eXchange ) ที่คอยทำหน้าที่เป็น switching ให้เราสามารถโอนไปมาหากัน ได้ เวลาที่เราต้องการโทรออก ก็คอยหาคู่สายว่างให้เราสามารถโทรได้ PABX ที่รองรับ line โทรศัพท์เยอะๆ ก็มีขนาดใหญ่(มากๆ) อยู่เหมือนกัน และต้องเดินส่วนเฉพาะสำหรับใช้งานระบบโทรศัพท์ แบบ 1 ต่อ 1 เช่นมี 1000 คู่สายภายใน ก็ต้องมี 1000 สาย เชื่อมต่อไปยังเครื่องโทรศัพท์