ปัญหาเครื่อง Printer Epson 590 ปริ้นไม่ออก

ปัญหาเครื่อง Printer Epson 590 ปริ้นไม่ออก [พฤศจิกายน ปี 2560]

[ถ้าบริษัทไหนเกิดอาการขัดข้อง ปริ้น Epson 590 อาจจะเพราะเคสนี้]

      อยู่ๆก็เป็นทั้งๆที่ยังไม่ได้ทำอะไร ถ้าผ่านตัว Printer server d-link จะเกิดปัญหานี้ครับ เนื่องจากได้โทรสอบถามกลับทางบริษัทแล้วเนื่องจากปัญหามาจากการ Update ของตัว Window ทำให้เกิด Bug ขัดข้องของการ Printer Epson 590 การ Update ที่ปล่อยมาเริ่มวันที่ 16 พฤศจิกายน 2560 ซึ่งตอนนี้ทาง Window ยังไม่ปล่อยตัวอัพเดทใหม่มาแก้ปัญหานี้


           วิธีแก้เบื้องต้นคือ 
1. ทำการ Restore Windows กลับไปก่อนวันที่ 16 พฤศจิกายน 2560 แล้วทำการปิด window update
2. ทำการลง WIndow ใหม่แล้วทำการปิด  window update จนกว่าจะมีการแก้ Bug เสร็จ

                                                                        ...หรือท่านใดมีวิธีการแก้ไขอื่นๆมาอัพเดทข้อมูลกันนะครับ...

วิธีจากทาง dotmatrix

วิธีแก้ขัด ที่ 1 ถอน windows update เมื่อวาน
วิธีแก้ขัด ที่ 2 http://www.zxdrive.com/files/Epson/troubleshooting/sidm/tbs_dotmatrix_0035.pdf

ปัญหาคอมพิวเตอร์ Restart ตัวเอง

ปัญหาคอมพิวเตอร์ Restart ตัวเอง

รีสตาร์ท (Restart)

สาเหตุของปัญหา Restrat ตัวเองบ่อยๆ

1. เกิดจากตัวจ่ายกระแสไฟฟ้า Power Supply

          เนื่องจากมีการต่ออุปกรณ์เสริมมากจนเกินเช่น การ์ดจอที่กินกระแสสูง หรือการต่อพ่วง Harddisk 2 ลูก ทำให้เกิดการจ่ายกระแสไฟฟ้าไม่พอ

    วิธีแก้ไข : ทำการเปลี่ยนตัวจ่ายกระแสไฟ ให้มีวัตต์ที่สูงกว่าเดิม

2. เกิดจากการต่ออุปกรณ์ใหม่ ที่ไม่เข้ากัน

         เมื่อต่ออุปกรณ์ที่ไม่เข้ากับบอร์ด หรือตัว ไบออส เช่นการใช้ Ram คนละบัสที่แตกต่างกันทำการให้ทำการของสัญญาณคอมพิวเตอร์ขัดข้อง

    วิธีแก้ไข : ถอดหาต้นเหตุของตัวอุปกรณ์ใหม่เจ้าปัญหา ตรวจสอบรายละเอียดว่าอุปกรณ์เข้ากันได้หรือป่าว

3.เกิดจากไฟล์ OS ที่ติดตั้งไม่สมบูรณ์หรือเสียหาย

        > สามารถเกิดจากการที่ไฟดับ ไฟตก ไฟกระชาก ทำให้ Harddisk เกิดความเสียหาย ข้อมูลที่เป็น window เสียหาย

        > สามารถเกิดจากไวรัสที่เข้าไปสร้างความเสียหายให้กับไฟล์ OS

    วิธีแก้ไข : ติดตั้งระบบปฎิบัติการใหม่ (ลงวินโดส์ใหม่นั้นเอง) ที่เป็นของแท้

4.อื่นๆ คือ  อาจจะเป็นที่ CPU ร้อนจัดเครื่องจะรีบู๊ตตัวเอง 
                   วิธีแก้ไข : เปลี่ยน ซิลิโคนอาจจะเก่า หรือ ใส่พัดลม

                  อาจจะเป็นเมนบอร์ด ตัว C เก็บประจุบวมได้

                   วิธีแก้ไข : ถ้ามีฝีมือทำการเปลี่ยน C เองได้ครับ

                 *** ทั้งหมดเหล่านี้คืออาการที่ติด Top ของปัญหา Restart แต่ยังมีหลายอาการที่อาจจะทำให้เกิดการ รีบู๊ตได้อีก ***

เสียงร้อง ของคอมพิวเตอร์มีความหมายอย่างไร ??

เสียงร้อง ของคอมพิวเตอร์มีความหมายอย่างไร ??

เสียงของคอมพิวเตอร์

           เสียงสัญญาณ Beep ปี๊บ ในคอมพิวเตอร์ สัญญาณค่อนข้างฟังยาก ถ้าฟังไม่ทัน ควร  Restart แล้วฟังใหม่ จึงควรอาศัยความชำนาญเล็กน้อยในการฟัง     โดยสัญญาณจะแบ่งออกเป็น 3 จังหวะ แต่ละจังหวะ จะมีเสียงสั้นยาวไม่เท่ากัน  โดยแต่ละสัญญาณเสียงที่เป็นปัญหาหลักๆ จะมีความหมาย ดังนี้

BIOS Award 
     เสียง Beep สั้นๆ 1ครั้ง (Beep) > เครื่องทำงานปกติ
     เสียง Beep สั้นๆ 2-3 ครั้ง (Beep Beep) > เครื่องทำงานผิดปกติ แรมหรือแมนบอร์ดอาจมีปัญหา Post ไม่ผ่าน
     ไม่มีเสียง (...) > แหล่งจ่ายไฟหรือแมนบอร์ดมีปัญหา
     เสียง Beep สั้นๆ หลายครั้งอย่างต่อเนื่อง (Beep Beep Beep Beep Beep) > แหล่งจ่ายไฟหรือเมนบอร์ดมีปัญหา
     เสียง Beep ยาวๆ 1 ครั้ง และสั้นๆ 1 ครั้ง (Beep...Beep) > เมนบอร์ดมีปัญหา
     เสียง Beep ยาวๆ 1 ครั้ง และสั้นๆ 2 ครั้ง (Beep...Beep Beep) > การ์ดจอเสียบไม่แน่น หรือเสีย
     เสียง Beep ยาวๆ หลายครั้งอย่างต่อเนื่อง (Beep...Beep...Beep...Beep...Beep...) > แรมเสียบไม่แน่น หรือหน้าสัมผัสสกปรก

BIOS AMI
     จำนวนเสียง 1 ครั้ง > เครื่องทำงานปกติ POST ผ่าน
     จำนวนเสียง 2 ครั้ง > หน่วนความจำส่วนแรกสุด (64kb) มีปัญหา ตรวจสอบพาริตี้ไม่ผ่าน
     จำนวนเสียง 3 ครั้ง > การทดสอบการอ่าน/เขียนข้อมูลในหน่วยความจำมีปัญหา
     จำนวนเสียง 4 ครั้ง > วงจรตั้งเวลาตัวหลักเมนบอร์ดมีปัญหา
     จำนวนเสียง 5 ครั้ง > CPU มีปัญหา
     จำนวนเสียง 6 ครั้ง > ตัวชิบที่ควบคุมการทำงานของคีย์บอร์ดเสีย
     จำนวนเสียง 7 ครั้ง > เกิดปัญหาในการเปลี่ยนโหมดการทำงานของ CPU
     จำนวนเสียง 8 ครั้ง > หน่วยความจำบนการ์ดจอมีปัญหา (การ์ดจอเสีย) เสียบไม่แน่น หรือหน้าสัมผัสสกปรก
     จำนวนเสียง 9 ครั้ง > BIOS มีปัญหา
     จำนวนเสียง 10 ครั้ง > CMOS มีปัณหา ไม่สามารถอ่านเขียน CMOS ได้
     จำนวนเสียง 11 ครั้ง > หน่วยความจำแคชมีปัญหา

วิธีแก้ ไวรัสซ่อนไฟล์ หรือ ไวรัส Shortcut

วิธีแก้ ไวรัสซ่อนไฟล์ หรือ ไวรัส Shortcut

            หลายท่านคงเคยเจอกลับปัญหานี้หรือท่านที่กำลังเจอกลับปัญหา อยู่ดีๆ Folder งานหายไปไหนหมด โล่งๆ ว่างเปล่า เหลือทิ้งไว้เพียง 1 kb [อ๊ากๆๆ งานหายไปไหนหมด !!!] ....เราต้องทำใจเย็นๆไว้ครับ

            **เตือน** อย่าเพิ่งตกใจไปกด Format ลบออกละครับไม่งั้นไฟล์งานได้หายจริงๆแน่...ไฟล์งานท่านไม่ได้หายไปไหนหรอกครับแค่ถูกซ่อนไว้และเราจะนำมันกลับมา

                              >>> ไวรัสตัวนี้จะติดกันง่ายมากๆ เพียงเอา Flash Drive ไปเสียบที่เครื่องก็เรียบร้อยแล้วครับ <<<


อาการหน้าตาที่เจอ

เรามาดูวิธีแก้กันเลยดีกว่าครับ

1. เสียบ Flash drive ที่มีปัญหาไฟล์หาย จากนั้นกด Start เลือก Run แล้วพิมพ์ว่า cmd

                                                                          

                                 

2.จะได้หน้าต่างสีดำๆแบบนี้มา ให้ทำการดูว่า Flash drive เราเป็น drive อะไร( drive ที่เราจะทำการกำจัดไวรัสซ่อนไฟล์) เช่น

ถ้าเป็น drive : G ก็ให้พิมพ์ g:

ถ้าเป็น drive : D ก็ให้พิมพ์ d: เป็นต้น แล้วกด Enter

3.จากนั้นให้ทำการพิมพ์ว่า attrib -r -s -a -h /d  /s แล้วกด Enter

   (มันเป็นคำสั่งที่ให้แสดงทุกสิ่งอย่างออกมา)

4. รอสักครู่ Folder (ยิ่งไฟล์ข้อมูลเยอะก็จะยิ่งนาน ใจร่มๆ) เราจะกลับมา ...เย้ เย้

5. จากนั้นก็ลบพวก Shortcut 1 kb ออกให้สิ้นซาก !!!

6. เป็นอันจบพิธี...เชิญติดตามสาระดีดีได้ที่...โพสต์ถัดไปครับ

วิธีการเปลี่ยนภาษา หรือสลับภาษา

วิธีการเปลี่ยนภาษา หรือสลับภาษา **ทำการ add ภาษาไทย 

** จากนั้นมาสร้างให้ ปุ่มสลับภาษา

ปัญหาเปิดไฟล์ PDF ไม่ได้

** ปัญหาเปิดไฟล์ PDF ไม่ได้ **

อันดับแรกแยกก่อนครับเปิด ในเครื่อง หรือเปิด ใน Web Browser [พวก Chrome , Internet Explorer]

** กรณีเปิดในเครื่อง **

      วิธีที่1   อาจจะเป็นที่เวอชั่นตัวโปรแกรม Adobe Reader เก่าไป วิธีแก้ไขให้ทำการ Download เวอชั่นที่ใหม่ มาลงแทน   

                            
      [ตัวโปรแกรมมีให้โหลดฟรีนะครับ]..วิธีลงดูได้ จากกรณีเปิด Chrome ได้เลยครับแบบเดียวกัน

โปรแกรม Adobe Reader

___________________________________________________________________________________________

      วิธีที่2   อาจจะเป็นที่ไฟล์ต้นฉบับมีปัญหามาตั้งแต่ตอน Save ให้ทดลองทำการให้ต้นทาง ส่งไฟล์มาให้ใหม่อีกครั้ง

      วิธีที่3  ถ้าทำการเชื่อมต่อ WiFi อยู่ให้ลองเปลี่ยน WiFi ไปใช้เจ้าของเครือข่ายอื่น เช่นใช้ Wifi บริษัท แล้วเข้าไม่ได้ให้ลองทดสอบ ต่อจาก Hotsport มือถือดู บ้างที่เครือข่ายอาจจะเกิดขัดข้อง หรือ บล็อกตัวโปรแกรมไว้

*** เพิ่มเติม   ไฟล์ pdf. เวลาทำการ Save เป็นภาษาไทย บางครั้งผลที่ได้ชื่อไฟล์ดันเป็นเป็นภาษาต่างดาว ให้ลองทำการทดลอง Save เป็นภาษาอังกฤษดู ถ้าภาษาอังกฤษได้ให้ลองไปทำการเอา ฟอร์นภาษาไทยออก ทำการ restart แล้วก็ทำการ Add ภาษาไทยเข้าไปใหม่ ถ้าไม่ได้ให้โหลด Foxit Reader มาลองทำการ save ภาษาไทยดู

** กรณีเปิดใน Chrome **

        ตามปกติแล้วคุณจะสามารถเปิดไฟล์ PDF ขึ้นมาได้โดยอัตโนมัติใน Chrome โดยคลิกไฟล์ที่คุณต้องการดู หากไฟล์ PDF ดาวน์โหลดแทนที่จะเปิดขึ้นมาโดยอัตโนมัติใน Chrome อาจเป็นเพราะโปรแกรมอ่าน PDF ของ Chrome ปิดอยู่

___________________________________________________________________________________________

วิธีที่ 1 : เปิดไฟล์ PDF ใน Chrome

1.             ..เปิด Chrome ในคอมพิวเตอร์

2.             ...ที่ด้านขวาบน คลิกเพิ่มเติม >> การตั้งค่า

3.             ....คลิ๊กขั้นสูงที่ด้านล่าง

4.             .....ในส่วน "ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย" >> คลิกการตั้งค่าเนื้อหา

5.             ......บริเวณด้านล่าง คลิ๊กเอกสาร PDF

6.             .......ปิดเปิด PDF ด้วยแอปพลิเคชันอื่น

     ตอนนี้ Chrome จะเปิดไฟล์ PDF ขึ้นมาโดยอัตโนมัติเมื่อคุณคลิกไฟล์นั้นๆ

___________________________________________________________________________________________

วิธีที่ 2 : ทำการอัพเดทเวอชั่นโปรแกรม Adobe Reader

>> เข้าไปที่   https://get.adobe.com/reader/  ทำการเลือกตามภาพแล้วกด Install now

>> จะปรากฎแบบในภาพ ในกดดับเบิ้ลคลิกลงไป

>> ทำการกด RUN ลงโปรแกรม เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ

***[ในกรณีเครื่องบริษัทถ้าตอนกำลังลงค้างๆ ขึ้นข้อความว่า Administrator แสดงว่าคุณติดสิทธิ์ในการลงโปรแกรมนะครับ ต้องไปขอรหัสจาก เจ้าหน้าที่ iT มาใส่ถึงจะลงได้]

___________________________________________________________________________________________

** กรณีเปิดใน Internet Explorer **

Tools --> Manage Add-Ons --> Adobe Acrobat ซึ่งมันจะปรากฎในรายการและสถานะ การทำงานจะเป็น 'Enabled'

** (ทำตามภาพประกอบได้เลยครับ) **

....เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ..ขอบคุณที่รับชมครับ....

สีของ Harddisk ของยี่ห้อ Western Digital (WD) แตกต่างกันอย่างไร ?

Harddisk WD Black (สีดำ) : เป็น Harddisk ที่ทำงานได้ประสิทธิภาพดีที่สุด ทนที่สุดในบรรดาของ WD

ประเภทการใช้งาน : เหมาะสำหรับการนำมาทำเป็น Server เพราะมีประสิทธิภาพสูง หรือนำมาใช้เอาไว้ใช้งานกราฟฟิก และเกมส์ที่ใช้เครื่องงานหนักๆ [***หมายเหตุ : ประสิทธิภาพเครื่องสูงสุดขึ้นอยู่กับการ์ดจอ และ รุ่น Core CPU ด้วย]

คุณสมบัติ : - Capacity 1TB, 2TB, 3TB, 4TB, 5TB, 6TB (ที่มีจัดจำหน่าย)

                   - Interface SATA 6 Gb/s

                   - Form Factor 3.5 Inch

                   - RPM Class 7200

                   - Limited Warranty 5 year

Harddisk WD Blue (สีฟ้า) : เป็น Harddisk ที่เอาไว้ใช้งานทั่วไป ในชีวิตประจำวันของเราทั้งที่บ้านหรือที่ทำงานก็จะพบเห็นได้ เรียกได้ว่าเป็นรุ่น “Harddisk บ้านๆ”

ประเภทการใช้งาน : เหมาะกับการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่บ้าน ในการเก็บข้อมูลต่างๆ ใช้งานทั่วไป เช่นลง Window(OS) , Linux(OS) ของคอมพิวเตอร์ หรือการทำงานพวก โปรแกรมพื้นฐานต่างๆ MS office , pdf. 

คุณสมบัติ : - Capacity 500GB, 1TB, 2TB, 3TB, 4TB, 5TB, 6TB (ที่มีจัดจำหน่าย)

                   - Interface SATA 6 Gb/s

                   - Form Factor 3.5 Inch

                   - RPM Class 5400, 7200                 

                   - Limited Warranty 3 year

Harddisk WD RED (สีแดง) : เป็น Harddisk ที่สร้างมาเพื่อเอาไว้สำหรับการ NAS [Network Attached Storage] มาพร้อมกับเทคโนโลยี NASware™ และ 3D Active Balance Plus ความน่าเชื่อถือสูงและออกแบบสำหรับการใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง เรียกได้ว่าเป็นรุ่น “ทำงาน 24 ชั่วโมง”

ประเภทการใช้งาน : สร้างมาเพื่อเอาไว้สำหรับการ NAS หรือ RAID เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปตลอดไปจนถึง Office ขนาดเล็ก สำหรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลบนเครือข่ายขนาด 1-8 bay

คุณสมบัติ : - Capacity 2TB, 3TB, 4TB, 5TB, 6TB, 8TB, 10TB

                   - Interface SATA 6 Gb/s

                   - Form Factor 3.5 Inch

                   - RPM Class 7200

                   - Limited Warranty 5 years

 

Harddisk WD Purple (สีม่วง) : ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง พร้อมเทคโนโลยี AllFrame ที่ช่วยลดทอนความผิดพลาดของข้อมูลวิดีโอ ออกแบบมาเพื่อใช้กลับกล้องวงจรปิด

ประเภทการใช้งาน : เอาไว้ใช้งานกลับกล้อง CCTV

คุณสมบัติ : - Capacity 4TB, 6TB

                   - Number of CamerasUp to 64s

                   - Firmware AllFrame Technology

                   - Limited Warranty 3 years

Model #            Capacity           Interface           RPM Class       Cache 

 

WD6NPURX     6TB                 SATA 6Gb s       IntelliPower       64MB  

WD4NPURX     4TB                 SATA 6Gb s       IntelliPower       64MB

Harddisk WD Gold (สีทอง) : วัตถุประสงค์การใช้งานสำหรับศูนย์ข้อมูล ฮาร์ดดิสก์ WD Gold สำหรับศูนย์ข้อมูลจึงได้รับการเปิดตัวด้วยการกำหนดค่าคอนฟิกใหม่ในระดับความจุสูงสุดที่ 8TB โดยใช้เทคโนโลยีที่ใช้ก๊าซฮีเลียม HelioSeal® บรรจุในฮาร์ดดิสก์ 
เพื่อประสิทธิภาพ ความจุที่เหมาะสมต่อพื้นที่ตารางฟุต รวมทั้งการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการกินไฟน้อยสำหรับสภาพแวดล้อมในศูนย์ข้อมูล

ประเภทการใช้งาน : เอาไว้ใช้งานกลับ Datacenter 

คุณสมบัติ : - Capacity 1TB, 2TB, 4TB, 6TB, 8TB, 10TB

         - Interface SATA 6 Gb/s

                   - Form Factor 3.5 Inch

                   - RPM Class 7200

                   - Cache 128MB, 256MB

                   - Compatibility Windows, Windows Server, Linux, and Mac OS.

      Model #                    Capacity          Interface            RPM       Class

  

WD101KRYZ                    10TB                         SATA 6Gb s     7200     256MB 

WD8002FRYZ                    8TB                         SATA 6Gb s     7200     128MB 

WD6002FRYZ                    6TB                         SATA 6Gb s     7200     128MB 

WD4002FYYZ                    4TB                         SATA 6Gb s     7200     128MB 

WD2005FBYZ                    2TB                         SATA 6Gb s     7200     128MB  

---------------------------------------------------------------------------------

** ยกเลิกการจำหน่ายแล้ว [ WD GREEN ]

Western Digital ตัด WD Green ออกจากระบบ เหลือแค่ Blue ควรพิจารณาก่อนซื้อ

Harddisk WD Green (สีเขียว) : สำหรับผู้ที่ต้องการเน้นในด้านการประหยัดพลังงาน และมีความแรงพอๆกับ Blue

Blue VS Green ที่มันจะมีข้อมูลแจ้งไว้ว่า จะมีประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกัน โดยที่เขียวจะเหนือกว่าในด้านการประหยัดพลังงาน โดยมันจะมีการทำงานที่ออกแบบมาให้จานแม่เหล็กมีรอบการทำงานที่สูงต่ำแตกต่างกันได้ โดยจะมีรอบการทำงานในช่วง 5400rpm ไปจนถึง 7200rpm แต่ในการทำงานจริงนั้น โดยมากจะพบว่า WD Green จะมีรอบการทำงานในช่วงสูงสุดเพียง 5600rpm เท่านั้น ในขณะที่ราคากลับใกล้เคียงกับ WD Blue เป็นอย่างมาก